สอบเตรียมทหารล่าสุด(ปีการศึกษา2568)
สำหรับน้องๆที่มีความฝันที่จะเป็นทหารเบื้องต้นจะต้องผ่านการสอบคัดเลือกรอบแรกทั้งวิชาคณิตศาสตร์, วิทยาศาสตร์, สังคมศึกษา, ภาษาไทย และภาษาอังกฤษ หลังจากนั้นน้องจะต้องสอบรอบที่สองไม่ว่าจะเป็นการได้รับการตรวจร่างกาย(ตรวจเลือด,ตรวจปัสสาวะ,เอกซเรย์ทรวงอก,ตรวจการได้ยิน,ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ), ตรวจร่างกายอย่างละเอียดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญไม่ว่าจะเป็นอายุรแพทย์, อายุรแพทย์โรคหัวใจ, แพทย์หู คอ จมูก, จักษุแพทย์, แพทย์โรคผิวหนัง, ศัลยแพทย์ทั่วไป, ศัลยแพทย์กระดูกและข้อ, ศัลยแพทย์โรคทางเดินปัสสาวะและทันตแพทย์ , รวมถึงสอบพลศึกษาทั้ง8สถานีและสอบสัมภาษณ์ซึ่งจะเป็นสถานีที่หมุนเวียนสอบ การตรวจตานั้นเป็นส่วนหนึ่งของสถานีตรวจความสมบูรณ์ของร่างกาย น้องต้องไม่เป็นผู้มีโรคหรือความพิการที่ขัดต่อการเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหาร
ก่อนตรวจตา
อย่าลืมเช็คว่าตัวเองเผลอใส่คอนแทคเลนส์ไหมนะครับ เพราะเป็นข้อห้าม
การตรวจตา
จะแบ่งเป็นสถานีย่อยประมาณ4สถานี โดยแต่ละคนจะต้องถูกเรียกวนตรวจจนครบทุกสถานี ได้แก่
1.สถานีวัดค่าการมองเห็น
น้องจะต้องอ่านตัวเลขบนแท่นชาร์ตตัวเลขห่างจากเรา20ฟุตหรือ6เมตรจากตัวเลขใหญ่ ไปจนถึงตัวเลขตัวเล็กบนเส้นสีแดง ซึ่งเป็นระยะที่คนสายตาปกติควรอ่านได้คือ 20/20(ระบบฟุต)หรือ 6/6(ระบบเมตร) โดยน้องจะต้องอ่านทีละตาเริ่มจากตาขวาแล้วก็ตาซ้าย ปัจจุบันน้องอาจถูกให้อ่านตัวเลขบนแท่นแบบหมุนแทนแท่นชาร์ตตัวเลขที่ตั้งทั่วไปตามโรงพยาบาล เพื่อป้องกันการจำมาตอบนะครับ ถ้าหากน้องมีค่าการมองเห็นได้ตั้งแต่หรือดีกว่า20/20 ในแต่ละข้าง ก็ถือว่าผ่านครับ
2.สถานีวัดค่าสายตาและความดันลูกตา
โดยน้องจะได้รับการตรวจสายตาด้วยเครื่องตรวจอัตโนมัติ หากค่าสายตาสาสั้นไม่เกิน-1.50ไดออปเตอร์ และสายตาเอียงไม่เกิน 0.75ไดออปเตอร์ก็ถือว่าผ่านครับ กรณีน้องที่มีปัญหาสายตาสั้นและเอียงมากได้รับการทำพีอาร์เคหรือใส่เลนส์กดตามาหากค่าสายตาหลังทำไม่เกินค่าดังกล่าวถือว่าผ่านครับ ปัจจุบันบางปีมีการอนุโลมให้ผู้สมัครที่มีปัญหาสายตาทำเลสิคได้ ทั้งนี้ขึ้นกับกฏระเบียบในแต่ละปีนะครับ
3.สถานีตรวจตาบอดสี
แน่นอนครับ น้องจะได้รับการตรวจตาบอดสีด้วยIshihara testโดยถูกให้อ่านตัวเลขที่เห็นในแต่ละหน้า และลากเส้นจากจุดที่มีเครื่องหมายกากะบาทxด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่ง ทำการทดสอบทั้งหมด24หน้า(บางแบบทดสอบมี38หน้า) หากน้องสามารถตอบตัวเลขหรือลากเส้นได้ถูกทุกหน้าก็ถือว่าผ่าน ไม่มีตาบอดสีครับ
4.ตรวจตาด้วยกล้องslit lamp
โดยน้องจะได้รับการตรวจความสมบูรณ์ของตาและรอบดวงตา ว่ามีโรคตาที่เป็นข้อห้ามของผู้สมัครสอบเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหารบก ตามอ้างอิงระเบียบการทั่วไปและวิธีการสมัครเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหารในส่วนของกองทัพบกล่าสุด ประจำปีการศึกษา 2568 ผู้สมัครต้องไม่มีโรคตาดังนี้ ตาเหล่จนปรากฏได้ชัด, ต้อกระจก, แผลที่กระจกตาหรือกระจกตาขุ่นจนทำให้การมองเห็นผิดปกติ, ลูกตาสั่น, หนังตาตกหรือตาม้วนออกนอกหรือตาม้วนเข้าใน, ขนตาย้อยเข้าข้างในหรือย้อยออกข้างนอก, หนังตาแหว่งจนเสียรูป, ขอบหนังตาอักเสบมากหรือเรื้อรัง, หนังตาปิดไม่สนิท, ซีสต์ของหนังตา, ถุงน้ำตาอักเสบมากหรือเรื้อรัง, เยื่อตาอักเสบมากหรือเรื้อรัง, ริดสีดวงตา, ต้อเนื้อเข้าตาดำเกิน1มม., ตาโปนจนเห็นชัด, กระจกตาอักเสบเรื้อรัง, ต้อหิน, ช่องหนังตากว้างไม่เท่ากันจนดูน่าเกลียด ถ้าตรวจแล้วไม่พบความผิดปกติดังกล่าวก็ถือว่าผ่านครับ หรือผู้สมัครคนไหนที่เผลอใส่คอนแทคเลนส์มาก็จะถูกตรวจเจอที่สถานีนี้นะครับ
เห็นไหมครับไม่อยากเลยนะครับน้องๆ เพียงแค่ให้เรามีสติ ทำตามขั้นตอนข้อปฏิบัติที่ทางสถาบันกำหนดรับรองผ่านแน่นอนครับ ยังไงพี่หมอขอเป็นกำลังใจให้น้องๆทำตามความฝันของตัวเองให้สำเร็จนะครับ สู้ๆFighting (Gambare)